เมนู

แล้วนั้น จักปรากฏในตนเวลาใกล้ตาย. ก็ข้อนี้ เป็นธรรมดาของกรรม
นั่นแล.
จบอรรถกถาราชสูตรที่ 1

2. อัปปายุกาสูตร



ว่าด้วยอายุมารดาของพระโพธิสัตว์



[ 111 ] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ พระวิหารเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล เวลาเย็น
ท่านพระอานนท์ออกจากที่หลีกเร้นแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึง
ที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบ
ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ น่าอัศจรรย์ ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ ไม่เคยมีมาแล้ว พระมารดาของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรง
มีพระชนมายุน้อยเหลือเกิน เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าประสูติได้ 7 วัน
พระมารดาของพระผู้มีพระภาคเจ้าก็เสด็จสวรรคต เข้าถึงเทพนิกายชั้น
ดุสิต พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ ข้อนี้เป็นอย่างนั้น
ดูก่อนอานนท์ ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ดูก่อนอานนท์ มารดาของพระโพธิสัตว์
ทั้งหลายมีอายุน้อยเหลือเกิน เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติได้ 7 วัน มารดา
ของพระโพธิสัตว์ย่อมทำกาละ เข้าถึงเทพนิกายชั้นดุสิต.
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึง
ทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า

สัตว์เหล่าใดเหล่าหนึ่งผู้เกิดแล้ว และแม้จักเกิด
สัตว์ทั้งหมดนั้นจักละร่างกายไป ท่านผู้ฉลาดทราบ
ความเสื่อมแห่งสัตว์ทั้งปวงนั้นแล้ว พึงเป็นผู้มีความ
เพียรประพฤติพรหมจรรย์.

จบอัปปายุกาสูตรที่ 2

อรรถกถาอัปปายุกาสูตร



อัปปายุกาสูตรที่ 2

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
คำว่า อจฺฉริยํ ภนฺเต แม้นี้ พึงทราบโดยข้ออัศจรรย์ที่น่าติเตียน
เหมือนในเมฆิยสูตร. บทว่า ยาว อปฺปายุกา แปลว่า มีอายุน้อย
เพียงไร อธิบายว่า มีชีวิตชั่วเวลานิดหน่อย. บทว่า สตฺตาหชาเต
ความว่า ประสูติโดยสัปดาห์ 1 ชื่อว่าสัตตาหชาตะ ในเมื่อพระองค์
ประสูติได้ 7 วัน. อธิบายว่า ในวันที่ 7 ที่พระองค์ประสูติ. บทว่า
ตุสิตํ กายํ อุปปชฺชิ ความว่า เข้าถึงเทพนิกายชั้นดุสิต โดยการถือ
ปฏิสนธิ.
เล่ากันมาว่า วันหนึ่งภายหลังภัตร พระเถระนั่งพักผ่อนกลางวัน
ใส่ใจถึงพระรูปโฉมของพระผู้มีพระภาคเจ้า อันประดับด้วยพระลักษณะ
และพระอนุพยัญชนะ มีพระรูปเลอโฉม เป็นทัสนานุตริยะ แล้วจึง
คิดว่า น่าอัศจรรย์ พระพุทธเจ้าทั้งหลายเพียบพร้อมไปด้วยพระรูปกาย
น่าชม นำมาซึ่งความเลื่อมใสรอบด้าน น่ารื่นรมย์ใจ ดังนี้แล้ว จึงเสวย
ปีติและโสมนัสอย่างยิ่ง จึงคิดอย่างนี้ว่า ธรรมดามารดาผู้บังเกิดเกล้า
ถึงจะมีบุตรรูปร่างไม่ดี ก็ยังมีความพอใจ คล้ายว่าบุตรรูปร่างดีฉะนั้น